ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของผู้ป่วยมะเร็ง แต่ทางการแพทย์เชื่อว่ามีหลายปัจจัยด้วยกันที่ทำให้เกิดโรคนี้ โดยแบ่งออกเป็น 2 สาเหตุหลักๆ คือ สาเหตุจากสิ่งแวดล้อมภายนอกร่างกาย เช่น สารเคมีบางชนิดที่พบได้ในขบวนการทางอุตสาหกรรม ควันบุหรี่ เขม่ารถยนต์ เชื้อรา เนื้อสัตว์รมควัน ปิ้ง ย่าง ทอดจนไหม้เกรียม สีย้อมผ้า รังสีต่าง ๆ รังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดด รวมทั้งการติดเชื้อเรื้อรัง และพยาธิสะสมในร่างกาย ส่วนสาเหตุภายในร่างกาย พบได้จากพันธุกรรมที่ผิดปกติ ความไม่สมดุลทางฮอร์โมน ภูมิคุ้มกันที่บกพร่อง การระคายเคืองที่เกิดซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน และภาวะทุพโภชนาการ เป็นต้น
สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ผู้ที่มีความเสี่ยงโรคมะเร็ง ตลอดจนผู้ที่ต้องดูแลผู้ป่วย สามารถดูแลสุขภาพและอาหารการกิน โดยเลือกอาหารโรคมะเร็งโดยเฉพาะและวัตถุดิบที่มีส่วนช่วยต้านเซลล์ที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้ ดังนี้
สารต้านอนุมูลอิสระ(Antioxidant) เป็นสารที่สามารถยับยั้งหรือชะลอการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน (Oxidation) ที่ก่อให้เกิดความผิดปกติและความเสื่อมสภาพของเซลล์ อันเป็นสาเหตุโรคชราและความเสื่อมของร่างกาย อาหารโรคมะเร็งที่สามารถต้านอนุมูลอิสระได้มักพบในผักผลไม้หลากสี เช่น
ธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสี หรือขัดสีน้อยที่สุด ทำให้ยังคงมีคุณค่าทางสารอาหารสูง เช่น วิตามิน แร่ธาตุ ไฟโตนิวเตรียนท์ เส้นใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ ซึ่งพบได้มากในข้าวกล้อง ข้าวสาลี ข้าวโพด ลูกเดือย เป็นต้น จึงนิยมนำมาประกอบอาหารโรคมะเร็ง นอกจากอาหารธัญพืชและเส้นใยจะช่วยขับสารที่เป็นโทษซึ่งเกาะอยู่ตามลำไส้ออกไป ยังลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งในทางเดินอาหารอีกด้วย
เครื่องเทศอุดมด้วยสารอาหารจากพืชหลากหลายชนิด รวมถึงสารประกอบ และน้ำมันหอมระเหยที่เฉพาะตัว ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านออกซิเดชัน (Antioxidant) อีกทั้งยังมีรสชาติเผ็ดร้อน จึงนิยมนำมาปรุงประกอบอาหารโรคมะเร็ง เพื่อช่วยเพิ่มกลิ่นรสในอาหาร ช่วยกระตุ้นความอยากอาหารแก่ผู้ป่วยมะเร็งได้เป็นอย่างดี จึงนิยมนำมาปรุงประกอบอาหารโรคมะเร็งเพื่อเพิ่มรสชาติในอาหาร
ในการปรุงอาหารโรคมะเร็ง อันดับแรกคือไม่ควรรับประทานอาหารที่ปิ้งย่างจนไหม้เกรียม อาหารสุกๆ ดิบๆ อาหารที่ใช้น้ำมันทอดซ้ำหลายครั้ง และควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทไขมันอิ่มตัว ลดการบริโภคเนื้อแดง เช่น เนื้อวัว เนื้อแกะ เพราะอาจทำให้เสี่ยงเป็นมะเร็งลำไส้ มะเร็งทวารหนัก รวมถึงเลี่ยงอาหารที่หวาน มัน เค็ม และอาหารหมักดอง เพื่อช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งในอนาคต
ผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับคีโมควรทานอะไร?
สำหรับผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับคีโม ควรรับประทานอาหารโรคมะเร็งที่มีสารอาหารครบถ้วน เน้นปรับภูมิคุ้มกันในร่างกายให้สมดุล เพื่อเสริมสร้างเม็ดเลือดขาวให้แข็งแรง แต่ในระยะนี้ผู้ป่วยมะเร็งอาจมีผลข้างเคียงที่เกิดจากการทำคีโม เช่น เบื่ออาหาร เจ็บปาก การรับรู้รสอาหารเปลี่ยนไป คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย อ่อนเพลียและง่วงซึม เป็นต้น หากมีผลข้างเคียงที่ค่อนข้างรุนแรงแพทย์อาจสั่งให้ทานอาหารเหลวใส เหลวข้น เช่น น้ำข้าวต้ม ซุปน้ำใส ซุปฟักทอง เมื่ออาการเริ่มปกติขึ้นจึงค่อยทานอาหารอ่อนเคี้ยวง่ายและทานอาหารปกติได้ตามลำดับ
เมื่ออาการฟื้นตัวดีขึ้น ผู้ป่วยโรคมะเร็งควรทานอาหารที่มีสารครบถ้วน โดยจะเน้นไปที่อาหารประเภทที่ให้พลังงานและมีโปรตีนสูง เช่น เนื้อ นม ไข่ ขนมปัง ธัญพืช รวมถึงผักผลไม้ที่มีวิตามิน แร่ธาตุและสารต้านอนุมูลอิสระสูง เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายที่อ่อนแอลงหลังการทำคีโม
ตัวอย่างเมนูอาหารโรคมะเร็งสำหรับผู้ป่วยที่ต้องรับคีโม