ปัจจัยที่ทำให้ทาน เซอร์นิติน Cernitin หรือ พอลลิติน Pollitin เเล้วได้ผล ประกอบด้วย...

- การเลือกชนิดเซอร์นิติน Cernitin หรือ พอลลิติน Pollitin ได้ตรงตามโรคของผู้ป่วย
ผู้แนะนำควรมีความรู้ความเข้าใจเป็นอย่างดีในการจัดเซอร์นิตินให้ตรงกับโรคของผู้ป่วย ควรมีความรู้เกี่ยวกับโรคเป็นอย่างดี ว่าผู้ป่วยเป็นโรคหลัก คือ โรคอะไร และระบบของร่างกายส่วนใดที่ผิดปกติ และต้องการการฟื้นฟู เช่น โรคหลักของผู้ป่วย คือ เบาหวาน ส่งผลให้เกิดการเสื่อมสภาพของไต (โรคไต) กระดูก (ภาวะกระดูกพรุน) หัวใจและหลอดเลือด (หลอดเลือดหัวใจตีบ) เกล็ดเลือด (เกล็ดเลือดต่ำ) เป็นต้น ดังนั้นจะเห็นว่าชนิดของเซอร์นิตินที่ควรจัดให้กับผู้ป่วย ก็คือ Wheatgrass/ระบบไต Pollitab, Royal Vita/ระบบกระดูก Cernitromb/ระบบหัวใจและหลอดเลือด Cerminal/ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ
- ระดับของเซอร์นิติน Cernitin หรือ พอลลิติน Pollitinที่เพียงพอ
ผู้แนะนำควรมีความสามารถในการประเมินอุบัติการณ์ของโรคที่ผู้ป่วยกำลังเผขิญอยู่ได้ เช่น หากผู้ป่วยมีอุบัติการณ์ที่ค่อนข้างหนัก เช่น โรคไตหรือโรคตับระยะสุดท้าย ควรบริหารระดับของสารอาหารบำบัดให้เพียงพอ เช่น อย่างละ 2 เม็ด 3 เวลา หรือ อย่างละ 1 เม็ด 4 เวลาต่อวัน หากผู้ป่วยมีอุบัติการณ์ของโรคในระดับกลาง อาจบริหารระดับของสารอาหารบำบัด เช่น อย่างละ 1 เม็ด 3 เวลา หรือ อย่างละ 1 เม็ด 2 เวลา สุดท้ายหากพบว่า ผู้ป่วยมีอุบัติการณ์ของโรคในระดับเริ่มต้น หรือผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ อาจบริหารระดับของสารอาหารบำบัด เช่น อย่างละ 1 เม็ด ต่อวัน
- ความสม่ำเสมอในการทานเซอร์นิติน Cernitin หรือ พอลลิติน Pollitin
ผู้ป่วยควรมีวินัยในการทานสารอาหารบำบัดโรคอย่างสม่ำเสมอตามที่ผู้แนะนำกำหนด เพราะหากขาดความสม่ำเสมอในการทาน เช่น กำหนดว่าควรทานอย่างน้อย อย่างละ 1 เม็ด 3 เวลาต่อวัน แต่ผู้ป่วยทานแค่ 1 – 2 เวลาต่อวัน เพราะระดับของสารอาหาร บำบัดโรคที่เหมาะสมมีผลต่อโดยตรงต่อการบำบัด ทั้งนี้ในผู้ป่วยหนักมีความต้องการระดับของสารอาหารบำบัดโรคที่สูงกว่า และต่อเนื่องมากกว่าผู้ป่วยทั่วไป
- ภาวะวิกฤตของอาการผู้ป่วยและการสูญเสียการทำงานในบางระบบของร่างกาย
ผู้ป่วยหนักบางรายที่มีขีดความสามารถในการดูดซึมสารอาหารได้ต่ำมาก อันเนื่องมาจากความผิดปกติของระบบต่างๆ ในร่างกายที่สูญเสียการทำงาน เกิดการหย่อนประสิทธิภาพ หรือเสื่อมสภาพอย่างถาวร เช่น ผู้ป่วยอัมพาตที่ป่วยนอนติดเตียงนานๆ เป็นแรมปี ทำให้สูญเสียมวลกล้ามเนื้อส่งผลให้กล้ามเนื้อลีบ บางรายพบว่ามีภาวะข้อติด ส้นเอ็นตาย ทำให้สูญเสียการเคลื่อนไหวบางรายที่ประสบอุบัติเหตุส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายช่วงล่างได้ หรือผู้ป่วยที่ขาดวิตามินเอ ที่เป็นสาเหตุของการสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร หากจะถามว่า แล้วทานเซอร์นิติน Cernitin หรือ พอลลิติน Pollitin จะช่วยอะไรได้บ้างในผู้ป่วยเหล่านี้ คำตอบ ก็คือ ช่วยให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารที่จำเป็นได้อย่างครบถัวน ส่วนการฟื้นฟูสภาพร่างกาย เป็นกลไกลทางร่างกายของผู้ป่วยแต่ละคน ซึ่งไม่อาจกำหนดหรือคาดการณ์ล่วงหน้าได้ว่าผู้ป่วยจะสามารถตอบสนองต่อการบำบัดได้ในระดับใดได้บ้าง ซึ่งแม้แต่แพทย์เฉพาะทางเองก็ยังไม่สามารถให้คำตอบได้เช่นกัน ดังนั้นผู้แนะนำควรทำความเข้าใจกับญาติผู้ป่วยล่วงหน้าก่อนในเบื้องต้น เกี่ยวกับผลการบำบัดโรค และความคาดหวังของผลการบำบัดโรคที่อาจเป็นไปได้ในแต่ละช่วงเวลา เช่น ผู้ป่วยจะ มีความสมบูรณ์ของร่างกายมากขึ้นในช่วงเวลา 2 สัปดาห์ อาการวิงเวียนศรีษะจากภาวะความดันโลหิตสูงจะลดลงหลังจากผ่านไปแล้ว 2 สัปดาห์ เป็นต้น
- พฤติกรรมการบริโภคอาหารบางประเภทของผู้ป่วย
ผู้ป่วยบางรายที่อยู่ระหว่างการทานสารอาหารบำบัดโรค Cernitin ไม่งดเว้นการรับประทานอาหารบางประเภทที่อาจเป็นอุปสรรค หรือขัดขวางการบำบัดโรค เช่น ผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ควรงดเว้นอาหารที่มีองค์ประกอบของฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มีผลกระตุ้นเซลล์มะเร็งให้ขยายตัวมากขึ้น เช่น น้ำมะพร้าว และน้ำเต้าหู้ ผู้ป่วยโรคไต ระยะไตวาย ที่มีของเหลวในช่องท้องจำนวนมาก ควรงดเว้นอาหารรสชาติเค็มที่มีเกลือโซเดียมสูง และผลไม้ที่มีโปตัสเซียมสูง เช่น ส้ม มะนาว มะละกอ หรือผักที่มีสีเขียวและ สีเหลืองเข้ม เช่น ผักขม ฟักทอง เป็นต้น
ในช่วงแรกที่เริ่มบำบัดโรคด้วย Cernitin ผู้ป่วยสามารถทานควบคู่กับการทานยาแผนปัจจุบันที่ผู้ป่วยทานอยู่เดิมได้ เพราะนอกจากจะช่วยให้ผู้ป่วยเกิดความสบายใจแล้ว ยังช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง/หัวใจตีบ แต่ในผู้ป่วยบางรายที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงที่ทานเซอร์นิติน Cernitin หรือ พอลลิติน Pollitin ไปแล้วสักระยะหนึ่งและมีการทานยาลดไขมันในกระแสเลือดร่วมด้วย เช่น simvastatin อาจทำให้ผู้ป่วยมีน้ำหนักตัวลดลงได้ ฉะนั้นจะเป็นการดีหากมีการตรวจยืนยันผลเลือดเพื่อให้ทราบระดับไขมันในกระแสเลือด ความดันโลหิต เพื่อพิจารณาหยุดยาลดความดันและยาลดไขมันในกระแสเลือดในที่สุด
ข้อควรคำนึงถึงสำหรับบางกลุ่มอาการโรคกับบางชนิดของเซอร์นิติน Cernitin หรือ พอลลิติน Pollitin กลุ่มโรคบางอย่างที่หากมีการทานสารอาหารบำบัดโรค เซอร์นิติน Cernitin หรือ พอลลิติน Pollitin บางชนิด อาจทำให้ขัดขวางการฟื้นฟูเซลล์ได้ เช่น ในผู้ป่วยโรคตับ และโรคไต ที่มีของเหลวในช่องท้องมาก ท้องโต หากทาน Cerminal และ Royal Vita ซื่งมีส่วนประกอบของสารอาหาร วิตามิน และเกลือแร่ที่เข้มข้นจะทำให้ตับ และไต ทำงานหนักมากขึ้น ส่งผลให้ของเหลวในช่องท้องมีปริมาตรมากขึ้น หรือในผู้ป่วยโรคมะเร็งทุกชนิด ยกเว้นโรคมะเร็งตับ /ตับแข็ง หากทาน Cernitromb จะทำให้เลือดไปเลี้ยงเซลล์มะเร็งมากขึ้น และเซลล์มะเร็งมีโอกาสที่จะขยายตัวมากขึ้น หรือแม้กระทั่งในผู้ป่วยโรคเบาหวาน ที่มีการทาน Slac เพื่อหวังผลในการลดไขมันส่วนเกินและระดับน้ำตาลในกระแสเลือด อาจทำให้ผู้ป่วยเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำและรู้สึกอ่อนเพลีย ดังนั้นในผู้ป่วยที่มีอาการโรคดังกล่าวข้างต้น ควรพิจารณาจัดชนิดของสารอาหารบำบัดโรค Cernitin ด้วยความระมัดระวัง